ต้องยอมรับหน้าด้านๆกะแฟนๆบล็อกว่า ในบางอารมณ์ก็มีเบื่อๆ ไม่อยากจะเขียนอะไร เหมือนกัน ยิ่งในช่วงสถานะการณ์ที่ผ่านมา และยังฝุ่นตลบกันอยู่ ยังไม่นิ่ง ทำให้พาลเบื่อเอาง่ายๆ
แต่พอมีเรื่องอยากจะเล่า ดันมีหลายๆเรื่องประดังเข้ามาไม่ขาดสาย งั้นก่อนจะไปเรื่องปัจจุบัน ก็ขอย้อนไปเล่าเรื่องในช่วงเดือนที่ผ่านมา จากการที่ผมและคุณบุ๊งได้ร่วมกันจัดกิจกรรมคับปิ้งให้บรรดาลูกค้าคอกาแฟดำที่โคราชได้ ทดลองและเรียนรู้เรื่องกาแฟผ่านไป
ในเช้าอีกวัน เรา 3 คน (ผม, caesarlab และคุณบุ๊ง) ก็เริ่มต้นการเดินทางออกหาเสียง(คนรักกาแฟ) ในภาคอีสานกัน จังหวัดแรกของทริปนี้ เราเริ่มที่ ชัยภูมิ ร้านของน้องดาว อราบิก้าไทยรุ่น10 โดยคุณบุ๊งได้หอบเครื่องชง VBM ไปส่ง ในขณะที่ผมก็หอบน้ำเชื่อมอร่อยๆ อย่างเจ้า Monin ไปส่งเช่นกัน ชัยภูมิในความทรงจำของผมในครั้งยังเยาว์วัย ช่างแตกต่างจากวันนี้โดยสิ้นเชิง มีห้างร้านค้าใหญ่โต ทั้งไทยและเทศ เบียดกันอยู่เต็มเมือง ร้านของน้องดาว เป็นร้านกาแฟเล็กๆในร้านค้าวัสดุก่อสร้างใหญ่ของครอบครัว ซึ่งเห็นว่าขายกาแฟดีมาก จนต้องสั่งเครื่องตัวใหม่จากคุณบุ๊ง ซึ่งผมก็ได้สังเกตุเห็นความตั้งใจและพัฒนาการของร้านนี้ ตามลำดับ จากเครื่องชง Silvia กับคู่ขา Rocky ก็เริ่มเปลี่ยนมาใช้เครื่องบดชั้นดี อย่าง Anfim Caimano และสุดท้าย ที่ไม่ท้ายสุด กับเครื่องชง VBM
วันที่ไป เป็นวันอาทิตย์ ปกติแล้วร้านนี้จะปิด หนึ่งวันเพื่อพักผ่อน แต่วันนี้ต้องเปิดเพื่อรอรับเครื่องชงตัวใหม่ ระหว่างที่คุณบุ๊งติดตั้งและทดสอบเครื่องชง ก็ปรากฎว่ามีลูกค้าที่ผ่านไปมา เห็นว่าร้านเปิด จึงเดินเข้ามาสั่งกาแฟกัน ที่แรกน้องดาวก็บอกว่าวันนี้ไม่ได้ขาย แต่ก็ทนเสียงรบเร้าของลูกค้าไม่ได้ และถือเป็นการลองเครื่องไปในตัว กาแฟที่ร้านนี้ใช้ มีทั้งกาแฟไทยและกาแฟนอกดีๆอย่าง Rainbow Runner ของคุณดม Mister Lee ขอนแก่นด้วย
ในช่วงเวลานั้น ประมาณ2 ชั่วโมงที่เราอยู่กัน มีลูกค้าเข้ามาสั่งซื้อตลอด ไม่ต่ำกว่า20แก้ว พระเจ้า ! ขายดุอย่างที่เขาล่ำลือกันจริงๆ
เมื่อได้เวลาอันสมควรก็ต้องลาจาก เพื่อไปขอนแก่นกันต่อ
จุดหมายต่อไปคือ ร้าน Mister Lee ที่ขอนแก่นนั่นเอง ซึ่งเรากะกันว่าจะไปเซอร์ไพรส์คุณดม จึงไม่ได้โทรนัดล่วงหน้า ไปถึงก็นั่งรอกับซดกาแฟ Ethiopia Yirgacheffe จากเจ้า Clover อันลือลั่น แกล้มไอสครีมแมคคาเดเมียนัทไปพลางๆ แต่ไหนๆก็มาถึงขอนแก่นแล้ว ขออนุญาติไปหาน้องJob ที่เคยมาเรียนกาแฟกับผมแล้วมาเปิดร้านกาแฟอยู่หลัง มข. กันดีกว่า
ร้าน Job Coffee อยู่หลัง มข. ทางไปโนนม่วง ถือเป็นอีกร้านที่มีความตั้งใจในการทำกาแฟที่ดี ส่วนเครื่องชง เครื่องบดก็ใช้รุ่นพิมพ์นิยมกะเขาเช่นกันคือ VBM+Anfim Caimano แต่ด้วยวันนั้นซัดกาแฟไปค่อนข้างเยอะแล้ว เลยขอผ่านก่อน บรรยากาศภายในร้านก็ดูสบายๆ มีเอาดอร์เป็นสวยเล็กๆ น่ามานั่งปล่อยอารมณ์ ดื่มกาแฟจริงๆ
ได้เวลานัดกับคุณดม เราก็บอกลาและไปเจอคุณดม กับน้องมด Skipper เพื่อไปทานอาหารค่ำกัน
พอเช้าทีมคนกาแฟก็มุ่งหน้าขึ้นเหนือของอีสาน ไปชมน้ำโขงที่หนองคาย และพบปะกับคุณหมอลูกค้าของบุ๊ง เสร็จสรรพดิ่งรถลงใต้ แฉลบขอนแก่นไปกาฬสินธุ์ เพื่อไปส่งเครื่องชง Oscar กะเครื่องบดK3 ให้ลูกค้าของผม ซึ่งมาเรียนกาแฟกับหมีใหญ่และกำลังจะเปิดร้านกาแฟในตัวเมืองกาฬสินธุ์ เมื่อตั้งและทดสอบเครื่องว่าพร้อมใช้งานได้แล้ว เราก็ลุยกันต่อ ไปหาคุณหงา ร้านกาแฟที่อร่อยที่สุดในสุวรรณภูมิ (ที่ไม่ใช่สนามบินแต่เป็นอำเภอในร้อยเอ็ด) ไปถึงก็ประมาณ 4ทุ่ม ร้านคุณหงายังมีลูกค้าอยู่เลย (เหนียวแน่นกันดีจัง) ตกลงคืนนั้น เรา3คนเข้าพักที่ หงาอินน์ ประหยัดที่พักได้คืนหนึ่ง คิดดูแล้ว วันนี้เราเดินทางได้เกือบพันกิโลได้มั๊ง^^
อรุณสวัสดิ์ที่แผ่นดินทอง(สุวรรณภูมิ) จังหวัด101 เช้านั้นคุณหงา ได้เลี้ยงกาแฟยามเช้าด้วยกาแฟจากแทนซาเนีย ซึ่งคุณหงาลงทุนคั่วกาแฟเอง เบลนด์เอง แอบไปดูหลังร้านก็เห็นเครื่องคั่วGene ตัวจิ๋ว พร้อมสารกาแฟจากที่ต่างๆทั่วมุมโลก ได้แอบซ่อนตัวอยู่ในเมือง101 รอเวลาคั่วอย่างระทึก ต้องยอมรับว่าคุณหงาไม่ธรรมดาจริงๆครับ และความตั้งใจในการทำกาแฟนั้นก็มีสูงมาก เพราะจะให้ผมคั่วกาแฟเพื่อขายแบบคุณหงา ผมเองคงไม่สามารถเช่นนี้ ปัจจุบันคุณหงาเป็นเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลประจำอำเภอ พอตกเย็นเลิกงานก็กลับมาคั่วกาแฟตามใจฉัน เช่นวันนี้คั่วบราซิล พรุ่งนี้คั่วสุมาตรา เสร็จสรรพก็นำมาเบลนด์ตามที่ตนเองต้องการ ดูมีความสุขมากครับ อิจฉา
จากร้อยเอ็ด เรามุ่งลงสุรินทร์ และมาถึงร้าน Klim ในตัวเมืองบุรีรัมย์ ของคุณแป๋ง ร้านนี้ผมชอบตรงการทำร้านแบบค่อยเป็นค่อยไป เริ่มจากร้านขายนมห้องเดียวเมื่อได้รับผลตอบรับดีก็ทำการขยายห้องไปข้างๆอีก แบ่งโซนและมุมนั่งได้น่าสนใจ สามารถให้ลูกค้ามีความเป็นส่วนตัวได้ไม่ยาก จะว่าไปร้านนี้หาไม่ยาก ยิ่งถ้าคุณมาบุรีรัมย์โดยทางรถไฟ คุณจะเจอร้าน อยู่ตรงหน้าสถานีรถไฟเลยล่ะ
ได้พูดคุยเรื่องกาแฟและแนวทางในการปรับปรุงให้กาแฟมีคุณภาพมากขึ้น อร่อยมากขึ้นไปอีก ทำอย่างไร แก้ปัญหากันอย่างไรแล้ว ก็ถึงเวลากลับบ้านแล้วหละ
งานนี้หมีใหญ่ต้องขอขอบคุณ คุณบุ๊งที่มาเยี่ยมและช่วยจัดกิจกรรมดีๆ เพื่อนๆทุกๆท่านที่หมีใหญ่ผ่านไปทักทายและพูดคุย หวังว่าจะทำให้ทุกท่าน Happy ไปกับผมนะครับ